ความหมายของโปรแกรมยูทิลิตี้
โปรแกรม
หมายถึงโปรแกรมที่ช่วยจัดการระบบทางด้านต่าง ๆ
รวมไปถึงดูแลรักษาและซ่อมบำรุงคอมพิวเตอร์ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์
ซึ่งในระบบปฏิบัติการวินโดวส์
98 ได้มีการพัฒนาเครื่องมือต่าง
ๆ เพิ่มขึ้นเพื่อใช้สำหรับดูแลรักษาระบบและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเครื่อง
คอมพิวเตอร์ อีกทั้งทำการซ่อมแซมบำรุงรักษาให้คอมพิวเตอร์
ตลอดจนถึงข้อแนะนำและแนวทางแก้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับระบบปฏิบัติการวิ นโดวส์
โดยเครื่องมือเหล่านี้ถูกต้องอยู่ในกลุ่มของคำสั่ง System Tools ใน Accessory
โดยหน่วยนี้จะกล่าวถึงวิธีการใช้งานโปรแกรมเหล่านี้
และประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อเรียกใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้หัวข้อคำสั่ง
System Tools
โปรแกรม Scandisk
โปรแกรม Scandisk เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบการทำงานของหน่วยสำรองข้อมูลประเภท
ฮาร์ดดิสก์ และฟล็อปปี้ดิสก์ ว่ามีส่วนที่ไม่สามารถบันทึกข้อมูลได้
รวมถึงตรวจสอบโครงสร้างของแฟ้มข้อมูลว่ามีความถูกต้องหรือไม่หากพบปัญหาเกิด
ขึ้นโปรแกรม Scandisk จะทำการแก้ไขโดยอัตโนมัติ
และรายงานผลการแก้ไขให้ผู้ใช้งานทราบ
หน้าที่ของโปรแกรมยูทิลิตี้
ตัวอย่างโปรแกรมยูติลิตี้
ชนิดของโปรแกรมยูติลิตี้มีหน้าที่ต่างๆ กัน
และมีผลิตภัณฑ์ยี่ห้อรุ่นต่างกันมากมาย
ในหัวข้อนี้จะกล่าวถึงตัวอย่างหน้าที่และผลิตภัณฑ์ตัวอย่างของโปรแกรมยูติลิ
ตี้ที่มีใช้กันอยู่มากและเป็นประโยชน์ต่อการใช้งาน
ฟอร์แมตเตอร์ – Formatter
โปรแกรมฟอร์แมตเตอร์เป็นโปรแกรมสำหรับการเตรียมรูปแบบการบันทึกข้อมูลบน
ดิสก์ เนื่องจากดิสก์เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลที่ใช้ได้กับคอมพิวเตอร์หลากหลายรุ่น
และระบบปฏิบัติการไม่เฉพาะเจาะจง
ก่อนที่จะใช้ดิสก์เป็นข้อมูลสำหรับระบบปฏิบัติการแบบใดจำเป็นต้องจัดรูปแบบ
การการจัดเก็บข้อมูลไฟล์และโครงสร้างที่เกี่ยวกับการจัดเก็บไฟล์และแบ่งได
เร็กทอรี่หรือโฟลเดอร์ตามรูปแบบที่ระบบปฏิบัติการนั้นกำหนด
การจัดรูปแบบที่เรียกว่าดิสก์ฟอร์แม็ต
จะต้องทำกับทั้งอาร์คดิสก์และฟล๊อปปี้ดิสก์ก่อนที่จะใช้ดิสก์นั้นเก็บข้อมูล
ครั้งแรก ซึ่งระบบปฏิบัติการทุกระบบจะเตรียมโปรแกรมยูติลิตี้เพื่อให้ผู้ใช้สามารถจัด
ฟอร์แม็ตดิสก์ใหม่ เช่น ในเอ็มเอสดอส ใช้คำสั่ง FORMAT.COM ในวินโดว์ก็มีคำสั่ง Format…
ในกลุ่มเมนู File
เมื่อเราเลือกไอคอนแสดงดิสก์ในระบบคอมพิวเตอร์ใหญ่คำสั่งในการจัดฟอร์แม็ตจะ
ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้งานได้ใช้คำสั่งเช่นนี้กับฮาร์ดดิสก์ของระบบ
ผู้ที่สามารถใช้คำสั่งนี้ได้จะเป็นผู้ดูแลระบบเท่านั้นและอาจจะต้องเข้าสู่
โหมดในการจัดการระบบก่อนที่จะทำการฟอร์แม็ตได้
เนื่องจากการฟอร์แม็ตดิสก์ใหม่จะทำให้โปรแกรม
และข้อมูลที่ถูกติดตั้งและบันทึกอยู่ถูกลบล้างหายไปทั้งหมด
จึงเป็นคำสั่งที่จะต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง
แม้แต่ในเครื่องพีซีที่ใช้งานส่วนบุคคลก็จะต้องระวังไม่ให้ใช้คำสั่งนี้ผิด พลาด
เช่นเลือกฟอร์แม็ตดิสก์ผิดตัว เป็นต้น
โปรแกรมช่วยค้นหาไฟล์ข้อมูล – Find File
การเก็บข้อมูลไฟล์ใน
ระบบที่มีหน่วยบันทึกข้อมูลความจุสูงที่ใช้กันทุกวันนี้
มีความสามารถเก็บข้อมูลได้นับหมื่นไฟล์
การเก็บข้อมูลมีการแบ่งโครงสร้างเป็นโฟลเดอร์ที่สามารถแตกออกไปได้หลายชั้น
ด้วยจำนวนไฟล์ที่มีมาก และสามารถจัดแบ่งโฟลด์เดอร์ที่เก็บข้อมูลย่อยๆ
บางครั้งเป็นการยากที่เราจะค้นหาไฟล์ข้อมูลที่ต้องการนำมาใช้งานว่ามีอยู่
หรือไม่และจัดเก็บไว้ในตำแหน่งใดโปรแกรมค้นหาไฟล์ข้อมูลเป็นยูติลิตี้ที่จะ
ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาได้ว่ามีไฟล์ที่ต้องการเก็บอยู่หรือไม่และหากมี
ไฟล์นั้นอยู่มี่ตำแหน่งใด โดยระบุเงื่อนไขของไฟล์ที่ต้องการได้หลายเงื่อนไข
เช่นกำหนดชื่อไฟล์หรือระบุเฉพาะบางส่วนของชื่อไฟล์
ชนิดของข้อมูลที่บรรจุอยู่ในไฟล์ ช่วงวันที่ที่เปลี่ยนแปลงข้อมูลล่าสุด
หรือระบุข้อมูลหรือข้อความที่อยู่ในไฟล์นั้น
ตัวอย่างเช่น คำสั่ง FINDFILE
ในโนเวลล์เน็ตแวร์ คำสั่ง Find
Files or Folders … ของวินโดว์
98 เป็นต้น
โปรแกรมช่วยลดขนาดไฟล์ในการจัดเก็บบันทึกให้เล็กลง
– File Compression
การจัดเก็บไฟล์ข้อมูลที่จะฝากเก็บไว้โดยยังไม่ได้ใช้งานสามารถบีบขนาด
ไฟล์ให้เล็กลงได้โดยใช้กระบวนการบีบอัดข้อมูลที่เรียกว่าดาต้าคอมเพรสชั่น (data
compression) ซึ่งขนาดอาจลดลงได้มากถึง
90% คือใช้พื้นที่เก็บข้อมูลเพียง
10% ของขนาดข้อมูลจริง
แล้วแต่ว่าข้อมูลนั้นมีความซ้ำกันเพียงใดหากซ้ำกันมากก็สามารถลดขนาดได้มาก
ข้อมูลที่ถูกลดขนาดลงไม่สามารถนำมาใช้งานได้ทันที
หากต้องการนำกลับมาใช้งานจะต้องขยายขนาดข้อมูลกลับมาเท่าเดิมโดยใช้โปรแกรม
ขยายขนาดกลับมาเรียกว่าดีคอมเพรสชั่น (decompression) ซึ่งโปรแกรมยูติลิตี้ที่ช่วยในการลดขนาดข้อมูล
จะมีคำสั่งสำหรับขยายขนาดข้อมูลกลับมาเป็นข้อมูลเท่าเดิมด้วย นอกจากนี้ยังสามารถบีบอัดและรวมข้อมูลหรือโปรแกรมจากหลายๆ
ไฟล์เข้ามารวมไว้ในไฟล์เดียวกันเพื่อทำให้สะดวกในการคัดลอกหรือโอนถ่าย
ข้อมูลและโปรแกรมระหว่างเครื่องคอมพิวเตอรตัวอย่างโปรแกรมยูติลิตี้สำหรับ
บีบอัดและขยายข้อมูลที่ถูกใช้งานกันมาก ได้แก่ PKZIP.EXE และ PKUNZIP.EXE
เป็นโปรแกรมบีบอัดและขยายที่ทำงานบนเอ็มเอสดอส
โปรแกรม WinZip ทำงานบนวินโดว์
โปรแกรม WinRAR เป็นต้น
โปรแกรมช่วยคืนไฟล์ที่ถูกลบไปแล้ว – File Undelete
ไฟล์ข้อมูลที่ถูกลบออกแล้วหากยังไม่มีการบันทึกข้อมูลใหม่ทับลงไปยัง
สามารถเรียกไฟล์เหล่านั้นกลับคืนมาได้ ซึ่งระบบปฏิบัติการในยุคปัจจุบันจะไม่บันทึกข้อมูลใหม่ทับตำแหน่งข้อมูลที่
ถูกลบเว้นแต่จะไม่มีพื้นที่บันทึกข้อมูลว่างแล้ว
หรือในระบบปฏิบัติการอาจมีวิธีนำข้อมูลที่ถูกลบไปเก็บไว้ในตำแหน่งที่เตรียม
ไว้ก่อน ซึ่งการเรียกข้อมูลที่ถูกลบทิ้งจะมีคำสั่งหรือโปรแกรมยูติลิตี้ช่วยดำเนิน
การ แต่ในระบบปฏิบัติการเช่นวินโดว์ 95/98 ได้รวมคำสั่งคืนไฟล์นี้เข้าเป็นคำสั่งของระบบปฏิบัติการตัวอย่างโปรแกรม
สำหรับคืนไฟล์ที่ถูกลบ เช่น คำสั่ง UNDELETE.COM ในเอ็มเอสดอส คำสั่ง SALVAGE
ในโนเวลล์เน็ตแวร์
หรือการใช้คำสั่ง Restore ใน Recycle
Bin (ถังขยะเก็บไฟล์ที่ลบแล้วของวินโดว์)
โปรแกรมช่วยทำข้อมูลสำรอง และนำคืนข้อมูลสำรอง – Backup and Recovery
โปรแกรมยูติลิตี้ประเภทนี้จะทำการคัดลอกไฟล์ข้อมูลเก็บลงในสื่อ
เช่นฟลอปปี้ดิสก์หรือเทป
เพื่อใช้เป็นสื่อข้อมูลสำรองที่สามารถนำข้อมูลกลับคืนมาติดตั้งใหม่หาก ข้อมูลในหน่วยบันทึกข้อมูลเกิดเสียหายหรือสูญหายไป
โปรแกรมสำรองข้อมูลบางโปรแกรมจะบันทึกข้อมูลสำรองแยกเป็นไฟล์
แต่บางโปรแกรมจะรวมข้อมูลที่สำคัญของดิสก์และระบบปฏิบัติการเป็นร่วมกันโดย
ไม่ได้คำนึงว่าไฟล์ใดบ้างและเก็บร่วมเป็นไฟล์เดียวกัน เรียกว่าดิสก์อิมเมจ (Disk
Image) หากหน่วยบันทึกข้อมูลเสียไปก็สามารถถ่ายข้อมูลดิสก์อิมเมจที่สำรองไว้กลับลง
มาได้เหมือนสภาพเดิมทันที
ตัวอย่างเช่น โปรแกรม Backup
ของเอ็มเอสดอส และวินโดว์ 95 หรือ 98 โปรแกรม Norton
Backup และ Colorado
Backup เป็นต้น
โปรแกรมช่วยซ่อมไฟล์ข้อมูลหรือพื้นที่ในการเก็บข้อมูลในดิสก์
– File and disk
repair
เมื่อเกิดปัญหาข้อมูลที่ถูกบันทึกในดิสก์เสียหาย
หรือระบบการจัดเก็บไฟล์มีบางส่วนเกิดเสียหาย ทำงานไม่ปกติ
โปรแกรมยูติลิตี้ด้านการตรวจสอบแก้ไขระบบไฟล์อาจถูกนำมาใช้เพื่อตรวจสอบและ
แก้ไขปัญหาด้านนี้ ซึ่งการทำงานของโปรแกรมประเภทนี้คือจะอ่านแต่ละส่วนของระบบการจัดเก็บไฟล์
ที่เรียกว่าไฟล์ซิสเต็ม (File System) เช่น ส่วนจัดเก็บชื่อไฟล์ ส่วนเชื่อมโยงไปยังเนื้อไฟล์
โครงสร้างการแบ่งไดเร็กทอรี่ และการจัดเก็บเนื้อที่ว่างบนดิสก์
หากพบว่ามีส่วนใดผิดปกติไม่ถูกต้อง จะแสดงรายการข้อผิดพลาดและถามให้ผู้ใช้เลือกว่าจะแก้ไขหรือไม่
ตัวอย่างเช่น Scandisk ที่ทำงานบนเอ็มเอสดอส,
Norton disk doctor ในวินโดว์
95 / 98 เป็นต้น
โปรแกรมตรวจสอบและกำจัดไวรัส – Anti Virus
ไวรัส (Virus) คือคำสั่งโปรแกรมประเภทหนึ่งที่ฝังตัวอยู่ในโปรแกรมประยุกต์หรือโปรแกรมระบบ
และจะทำการถ่ายทอดตัวเองไปยังโปรแกรมอื่นๆ
และแพร่ตัวเองไปบนระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย
แล้วทำให้เกิดความเสียหายแก่ไฟล์หรือดิสก์ของระบบนั้นๆ
โดยการทำลายโปรแกรมและข้อมูล หรือไวรัสบางตัวอาจทำลายดิสก์ทั้งหมด
ไวรัสจะแพร่หลายโดยการใช้โปรแกรมในดิสก์ร่วมกันหรือการใช้โปรแกรมที่โหลดมา
จากเครือข่ายคอมพิวเตอร์หรือจากอินเตอร์เน็ต
โปรแกรมตรวจจับไวรัส (Anti-virus
Software) เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการตรวจสอบสื่อบันทึกข้อมูลทั้งฮาร์ดดิสก์ฟลอปปี้ดิสก์
และหน่วยความจำเพื่อตรวจหาโปรแกรมไวรัส
โดยโปรแกรมจะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบหากตรวจพบพฤติกรรมของไวรัสและบางโปรแกรมจะ
ทำลายไวรัสให้ทันที
ตัวอย่างโปรแกรมตรวจสอบและกำจัดไวรัสได้แก่ McAfee
Virus Scan, Norton Antivirus, Virus Scan for Windows95 เป็นต้น
โปรแกรมตรวจเช็คสภาพเครื่องทั้งฮาร์ดแวร์และระบบปฏิบัติการ – System Diagnostic
โปรแกรมยูติลิตี้ที่ช่วยตรวจสอบการทำงานของฮาร์ดแวร์
ซึ่งรวมถึง ซีพียู, หน่วยความจำ, ระบบแสดงผล, อุปกรณ์มัลติมีเดีย
ว่ามีการทำงานเป็นปกติหรือไม่
ตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบปฏิบัติการว่ายังมีส่วนประกอบครบถ้วนและข้อมูลของ
ระบบปฏิบัติการเองไม่เสียหายไปเนื่องจากระบบปฏิบัติการที่มีความซับซ้อน
มีจำนวนไฟล์โปรแกรมและไฟล์ข้อมูลที่ใช้งานประกอบกันเป็นจำนวนมากบางครั้งอาจ
เกิดความเสียหายเนื่องจากการลบไฟล์ผิด
การติดตั้งโปรแกรมใช้งานไม่สมบูรณ์หรือผิดรุ่น
ก็อาจมีผลให้ระบบปฏิบัติการทำงานได้ไม่ถูกต้อง
โปรแกรมตรวจเช็คสภาพเครื่องจึงมีประโยชน์
ใช้งานได้ทั้งในสภาวะปกติที่เราจะตรวจสอบก่อนที่จะเกิดปัญหาและเมื่อเกิด ปัญหาขึ้น
เช่น เมื่อโปรแกรมทำงานไม่ได้ตามปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ
อาจมีส่วนของโปรแกรมที่ใช้ช่วยเหลือโปรแกรมต่างๆ
ไม่ให้โปรแกรมหยุดทำงานเนื่องจากติดขัดด้วยสาเหตุบางอย่าง
ตัวอย่างโปรแกรมตรวจสอบระบบ คือ WinCheckIT
, และโปรแกรมที่อยู่ในชุดของ Norton
Utilities เช่น Crash
Guard 2.0 , Win Doctor, System Doctor เป็นต้น
โปรแกรมตรวจสอบประสิทธิภาพการใช้งานทรัพยากร – Resource utilization performance meter
ยูติลิตี้นี้มีไว้ตรวจสอบว่ามีการใช้งานทรัพยากรของระบบมากเพียงใด
โดยจะแสดงในรูปของตัวเลขเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น การใช้ซีพียู 75% หมายความว่าซีพียูถูกใช้งานประมาณ
75% และหยุดรอโดยไม่ทำงาน
25% หรือการใช้หน่วยความจำ
30% หมายความว่ายังมีเนื้อที่ว่างในหน่วยความจำเหลืออยู่อีก
70% เป็นต้น
หรือแสดงในรูปกราฟที่ทำให้เราเห็นปริมาณการใช้งานที่ผ่านมาในระยะเวลาต่างๆ
และยังอาจเก็บชุดตัวเลขเหล่านี้บันทึกลงในไฟล์เรียกว่าล๊อกไฟล์ (log
file) เพื่อนำมาวิเคราะห์ในภายหลังได้ด้วย
การตรวจสอบประสิทธิภาพจะมีประโยชน์มากกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้เป็น
แม่ข่ายให้บริการแก่คอมพิวเตอร์อื่นๆ เพื่อจะดูว่าได้ใช้ความสามารถของแม่ข่ายนั้นในระดับใดหากใช้เกินกว่าปริมาณ
ที่สมควร อาจจะต้องปรับเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
เช่นหากใช้หน่วยความจำสูงมากอาจเพิ่มหน่วยความจำหรือหากใช้ซีพียูสูงตลอด
เวลาก็อาจเปลี่ยนไปใช้ซีพียูที่เร็วขึ้นหรือใช้ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีหลายซี พียู
และอาจจะมีส่วนที่ทำหน้าที่วัดและแสดงปริมาณการใช้ทรัพยากรของระบบรวมถึงการ
แสดงผลของทรัพยากรที่เหลืออยู่
ตัวอย่างเช่น Resource Meter, System
monitor ในกลุ่มคำสั่ง
Accessory ของวินโดว์
Norton System Doctor เป็นต้น
โปรแกรมช่วยจัดระเบียบข้อมูลในดิสก์ – Disk defragmentation
หากเป็นฮาร์ดดิสก์ที่เริ่มใช้งานใหม่หลังจากถูกฟอร์แมต
ระบบปฏิบัติการจะจัดเก็บข้อมูลของไฟล์ไว้อย่างต่อเนื่องบนเนื้อดิสก์
แต่หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่อยู่ในไฟล์ เช่นมีการลบไฟล์ เพิ่มข้อมูล
ฯลฯ ข้อมูลใหม่ของไฟล์จะถูกกระจายไปยังเนื้อที่ว่างที่ยังไม่ได้ถูกใช้งาน
ทำให้ข้อมูลในไฟล์ไม่ต่อเนื่องกัน
การที่เนื้อหาของไฟล์เดียวกันถูกจัดเก็บกระโดข้ามตำแหน่งกันไม่อยู่ต่อ
เนื่องทำให้ประสิทธิภาพในการอ่านข้อมูลไฟล์นั้นลดลงเนื่องจากต้องใช้เวลาใน
การเลื่อนหัวอ่านข้อมูลของดิสก์ข้ามไปมาในระหว่างอ่านชุดของข้อมูล
การจัดเก็บไฟล์ที่กระโดดข้ามไปมานั้นเป็นผลที่เกิดขึ้นจากการทำงานตาม
ปกติซึ่งเรียกว่า ไฟล์ที่แบ่งแยกออกเป็นชิ้นเล็กน้อย (Fragmented
file) คือไฟล์ที่ส่วนต่างๆ
ของไฟล์กระจัดกระจายไม่ต่อเนื่องกันอยู่บนดิสก์ ซึ่งทำให้การเข้าถึงข้อมูลในไฟล์ต้องใช้เวลามากขึ้น
โปรแกรมรวมรวมจัดระเบียบการจัดเก็บไฟล์ใหม่ (file
defragmentation utility) เป็นโปรแกรมยูติลิตี้ที่ทำการจัดตำแหน่งเนื้อที่ในแต่ละไฟล์ให้มาอยู่ต่อ
เนื่องกัน เพื่อจะเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลในดิสก์
และบางโปรแกรมยังทำการจัดตำแหน่งไฟล์ให้อยู่ในตำแหน่งในดิสก์ให้เหมาะสมกับ
การใช้งาน โดยดูจากโอกาสในการถูกใช้งานมากน้อยเพียงใด
หากเป็นกลุ่มไฟล์ที่จะถูกเรียกใช้งานบ่อยก็อาจนำมาวางเรียงกันในตำแหน่งใกล้ กัน
เพื่อไม่ให้หัวอ่านดิสก์ต้องเลื่อนตำแหน่งไปไกลมาก เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น โปรแกรมในชุดโปรแกรม Norton
Utility ได้แก่ Speed
Disk, Optimization Wizard คำสั่ง Disk Defragmenter ในกลุ่มคำสั่ง Accessory ของวินโดว์ เป็นต้น
โปรแกรมกำจัดข้อมูลที่ซ้ำซ้อนหรือไม่ได้ใชังานในระบบ
– Disk cleanup
การสร้างประสิทธิภาพของการใช้ระบบประการหนึ่งคือการกำจัดข้อมูลที่ไม่ถูก
ใช้งาน ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่สร้างขึ้นชั่วคราวระหว่างการใช้โปรแกรมแล้วไม่ได้ถูกลบ
ทิ้งเมื่อเลิกใช้ หรือข้อมูลที่มีอยู่ซ้ำซ้อนกันแต่เก็บในต่างตำแหน่งกัน
ไฟล์ข้อมูลของระบบปฏิบัติการที่อาจไม่ได้ใช้แล้ว
ซึ่งเมื่อมีข้อมูลที่ไร้ประโยชน์เก็บอยู่นอกจากจะทำให้เปลืองเนื้อที่บันทึก
ในดิสก์โดยเปล่าประโยชน์แล้วยังอาจกระทบต่อการสร้างประสิทธิภาพอื่นๆ เช่น
การกระจายของข้อมูลที่เก็บในดิสก์ (fragmented file) การเลื่อนของหัวอ่านดิสก์ที่จะต้องเลื่อนไปในแทรกต่างๆ
หากมีการเก็บข้อมูลมากจำนวนแทรกที่มีข้อมูลก็จะมากทำให้หัวอ่านมีโอกาสที่จะ
ต้องเลื่อนไปมาไกลขึ้น
โปรแกรมกวาดล้างข้อมูลส่วนเกิน (disk
cleanup utility) จะตรวจสอบข้อมูลไฟล์ประเภทต่างและให้ผู้ใช้ได้เลือกว่าต้องการลบข้อมูลกลุ่ม
ใดออกจากระบบ หรือให้เลือกแยกเป็นไฟล์ไปว่าไฟล์ใดต้องการลบออกบ้าง
โดยจะแสดงชื่อไฟล์ที่น่าจะไม่ได้ถูกใช้งานออกมาให้เลือก
ตัวอย่างโปรแกรมประเภทนี้ เช่น Disk
Cleanup ในกลุ่ม Accessory
ของวินโดว์ โปรแกรม Clean
Sweep เป็นต้น
ที่มา https://preeya034.wordpress.com/%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%89/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น